จำนวนผู้เข้าชม

วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2555

ปุ๋ยโบกาฉิ


ปุ๋ยโบกาฉิ(ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ)ตราโตตโต้ ผลิตจาก มูลค้างคาว มูลวัว มูลไก่ กระดูกป่น ปลาป่น ฟอสเฟต แคลเซียม แมกนีเชียม รำข้าว แกลบ ฯลฯ นำมาผ่านกระบวนการหมักอย่างสมบูรณ์กับหัวเชื้อจุลินทรีย์EMด้วยเทคโนโลยีชีวภาพญี่ปุ่น ทำให้ได้ปุ๋ยโบกาฉิคุณภาพดี ไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่มีเชื้อโรคตกค้างจากมูลสัตว์ ช่วยเพิ่มสารอาหารและจุลินทรีย์ดีให้ดิน แก้ดินเสีย เพิ่มผลผลิต ใช้ทำเกษตรอินทรีย์ทั้งระบบโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาปุ๋ยเคมีเลย รับประกันความพอใจว่าใช้ได้ผลแน่นอน เหมาะกับพืชไร่ พืชสวน นาข้าว ยาง ปาล์ม มะนาว ไม้ดอก ไม้ประดับ หรือพืชทุกชนิด
 
 
 
ปุ๋ยโบกาฉิ บรรจุ 25 กิโลกรัม/กระสอบประโยชน์
     
    ปุ๋ยโบกาฉิสูตรพิเศษเร่งดอก เร่งผล ตราโตตโต้
  • ใช้ในระยะสร้างตาดอก เพื่อให้ดอกเยอะและสมบูรณ์ ดอกติดดี
  • ใส่ปุ๋ยบำรุงให้ขั้วเหนียว เลี้ยงผลให้ผลสมบูรณ์
  • แก้ปัญหาพืชไม่กินปุ๋ย สร้างรากฝอย แก้ดินเสีย
  • ปรับปรุงโครงสร้างของดิน ทำให้ดินอุ้มน้ำดีขึ้น แก้ดินเสีย
  • ชนิดเม็ด สะดวกในการหว่านไกล เช่นนาข้าว สวนปาล์ม
  • ชนิดผง ใช้ง่ายเห็นผลเร็วสำหรับพืชไร่พืชสวน
    ปุ๋ยโบกาฉิสูตรบำรุงต้น ใบ และรองก้นหลุมก่อนปลูกตราโตตโต้
  • เน้นบำรุงต้น ใบ ให้โตไวและแข็งแรงมีภูมิต้านทาน รวมถึงเร่งสร้างเปลือกไม้ใหม่ ซ่อมแซมส่วนที่เป็นแผลได้เร็วขึ้น
  • ใส่ปุ๋ยรองพื้น / รองก้นหลุมช่วยล่อรากให้ออกมาหาอาหาร สร้างระบบรากที่แข็งแรง
  • ใส่ปุ๋ยช่วงพักต้น ทำให้ต้นสะสมอาหารเพื่อนำไปสร้างผลผลิตในฤดูกาลถัดไป ช่วยให้ต้นไม่โทรม
    • ชนิดเม็ด สะดวกในการหว่านไกล เช่นนาข้าว  
    • ชนิดผง ใช้ง่ายเห็นผลเร็วสำหรับพืชไร่พืชสวน เช่น ยางพารา ไม้ดอก ผักสวนครัว 
โบกาฉิโตตโต้ผลิตจากอินทรีย์วัตถุล้วน ไม่มีเคมีและไม่มีดินผสม
 
ปุ๋ยโบกาฉิสูตรประยุกต์ตราโตตโต้ประกอบไปด้วย อินทรียวัตถุ เป็นแหล่งสารอาหารต่างๆ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน แร่ธาตุ กรดอะมิโน ฮอร์โมน เอนไซม์ ซึ่งอาหารเหล่านี้หลายๆอย่างไม่มีอยู่ในปุ๋ยเคมีสูตรต่างๆ แต่ก็เป็นสารอาหารที่พืชต้องการ และโบกาฉิต่างกับปุ๋ยอินทรีย์ทั่วไป คือ โบกาฉิมีจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ 80 ชนิด ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างดินทำดินให้มีชีวิต สร้างอาหารในดิน ทำให้พืชเจริญเติบโต แข็งแรง รวมทั้งมีภูมิต้านทานโรค-แมลงต่างๆ ดีต่อแหล่งน้ำและสิ่งแวดล้อม
จุลินทรีย์ในโบกาฉิ จะช่วยย่อยอินทรียวัตถุที่มีอยู่ในดิน เช่น เศษใบไม้ที่ร่วงหล่น ซากแมลงหรือสัตว์ต่างๆ รวมทั้งอาหารหรือปุ๋ยที่ตกค้างในดิน ตรึงไนโตรเจนในอากาศให้แก่รากพืช สร้างรากฝอย ปลดปล่อยฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมที่อยู่ในดินให้เป็นอาหารพร้อมใช้สำหรับพืช  ทำให้พืชโตเร็ว หาอาหารเก่ง ดินดี ร่วนฟู ซับน้ำอุ้มน้ำได้ดียิ่งขึ้น
  โบกาฉิช่วยแก้ปัญหาโครงสร้างของดินที่ถูกทำลายจากการเผา หรือใช้สารเคมีมานาน ดินที่มีคุณภาพต่ำ ให้กลายเป็นดินดีขึ้น ฟื้นฟูพืชที่โทรมให้กลับมาสมบูรณ์ ปรับปรุงคุณภาพของผลผลิต อร่อยขึ้น เก็บรักษาไว้ได้นานขึ้นไม่เน่า สิ่งมีชีวิตที่เป็นประโยชน์เช่น ไส้เดือน แมลงตัวห้ำ ตัวเบียนที่สร้างระบบนิเวศน์ที่ดีจะกลับมาอีกครั้ง
ใช้ดีมากกับนาข้าว ยางพารา สวนปาล์ม มะนาว พริก มะลิ พืชไร่ พืชสวน ผักสวนครัว ไม้ดอก ไม้ใบ และพืชทุกชนิด (สามารถสร้างอาหารธรรมชาติและปรับสภาพน้ำในบ่อปลา บ่อกุ้ง ได้)

โบกาฉิโตตโต้มีทั้งชนิดเม็ด และ ชนิดผง
  • แบบเม็ดใช้สำหรับท่านที่ต้องการหว่านปุ๋ยไปไกลๆ เช่น นาข้าว สวนยางพารา ฯลฯ
  • แบบผงเหมาะสำหรับพืชที่ใส่ปุ๋ยใต้รอบโคนต้น ทรงพุ่ม ไม้กระถาง ไม้บ้าน ฯลฯ ข้อดีแบบผงคือพืชตอบรับเร็วเห็นผลทันตาทันใจ เนื่องจากจุลินทรีย์จะทำงานได้ทันทีเมื่อถูกความชื้นหรือรดน้ำ (แบบผงราคาถูกกว่าแบบเม็ด)
  • หลังจากใส่ปุ๋ยโบกาฉิแล้วควรรดน้ำตามหรือใส่ก่อนฝนตก 
               โบกาฉิผง      โบกาฉิเม็ด

การใช้โบกาฉิตราโตตโต้
  • เตรียมดินก่อนปลูก หรือผสมดินรองก้นหลุมพืชทุกชนิด รวมทั้งเตรียมดินในนาก่อนปลูกข้าวด้วย การทำดินให้ดีเป็นการเริ่มต้นที่สำคัญมาก จะทำให้การดูแลพืชที่เราปลูกนั้นง่าย เนื่องจากพืชจะมีภูมิต้านทาน เพราะได้รับอาหารที่ดี
  • บำรุงในขณะที่ต้นยังไม่ให้ผลผลิต เช่น ปาล์มที่ยังไม่ให้ผล ยางพาราที่ยังไม่เปิดกรีด ไม้ผลต่างๆ ทั้งนี้เราต้องดูแลไม่ให้ติดลูกจำนวนมากในขณะที่ต้นยังไม่พร้อมด้วย เพราะจะทำให้ต้นโทรมและอายุสั้น
  • บำรุงในขณะที่ต้นให้ผลผลิต พืชที่เราปลูกนั้นดึงเอาสารอาหารต่างๆจากดินมาสร้างเป็นผลอยู่ทุกวัน เราจึงควรเติมอาหารให้ทางดินในช่วงเวลาที่เหมาะสม หากเราใส่ปุ๋ยสม่ำเสมอในช่วงที่ผลกำลังเจริญเติบโต ก็จะทำให้ได้ผลที่สมบูรณืยิ่งขึ้น
  • ฟื้นฟูต้นที่โทรม หรือเป็นโรค เช่น ปัญหายางพาราตายนึ่ง ข้าวรากดำ ทุเรียนเป็นไพทอปทอร่า ยืดอายุการให้ผลผลิตออกไปอีก หรือเมื่อปลูกใหม่ทดแทนต้นเก่าหากปลูกและดูแลแบบเกษตรอินทรีย์ชีวภาพ ต้นใหม่จะได้ไม่เป็นโรคเหมือนเดิมอีก 
  • ปริมาณการใช้ที่เหมาะสม ขึ้นกับคุณภาพของดินที่เพาะปลูก และอายุของพืช



http://www.organictotto.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538831962&Ntype=1&gclid=CNuaoovcrbICFc166wodqwgAhA
































ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น