การขยายพันธุ์ยางด้วยวิธีการติดตาเขียวเป็นวิธีการใหม่ที่พบครั้งแรกในรัฐซาบาร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อ พ.ศ.2503 หลังจากนั้นได้ปรับปรุงแก้ไขวิธีการให้ดีขึ้น จนได้ผลเป็นที่น่าพอใจและเป็นวิธีที่ดีกว่าการติดตาสีน้ำตาล
ข้อดีของการการติดตาเขียว การขยายพันธุ์โดยวิธีการติดตาเขียวมีข้อดีอยู่หลายประการ
- ทำการติดตาได้ง่าย รวดเร็ว สะดวก และให้ผลสำเร็จสูงถึง 95%
- เสียค่าใช้จ่ายน้อย
- สามารถผลิตต้นตอตาได้จำนวนมากและรวดเร็ว
- ในการดำเนินงานในแปลงกล้ายาง แปลงกิ่งตา ทำได้ง่ายสะดวก และรวดเร็ว
- ต้นยางติดตาเขียวสามารถกรีดเอาน้ำยางได้ก่อนต้นยางติดตาสีน้ำตาลอุปกรณ์ในการติดตาเขียว
1.ต้นตอ (ต้นกล้ายาง) จะต้องเป็นต้นตอที่สมบูรณ์ เปลือกลอกง่าย อายุ 4 เดือนครึ่ง ถึง 8 เดือน เส้นผ่าศูนย์กลางของลำต้นประมาณ 1.0-1.2 เซนติเมตร วัดที่ความสูงจากพื้นดิน 10 เซนติเมตร 2.กิ่งตาเขียว ต้องเป็นกิ่งตาเขียวที่สมบูรณ์และมีฉัตรยอดสีเขียวแก่ อายุประมาณสัปดาห์ กิ่งตาเขียว 1 กิ่งโดยเฉลี่ยจะมีตาที่นำไปใช้ได้ 3-5 ตา 3.มีดติดตา ต้องเป็นมีดที่มีใบมีดบางและคม อาจใช้มีดตัดโฟม หรือมีดอื่นๆ
4.ถุงพลาสติก สำหรับใช้บรรจุกิ่งตา
5.พลาสติกใส ใช้สำหรับพันต้นตอในเวลาติดตา มีขนาดกว้าง 1.5 เซนติเมตร หนา 0.05 เมตร ยาวประมาณ 30 เซนติเมตร
ุ6.เศษผ้า ใช้สำหรับทำความสะอาดโคนต้น และกิ่งตา ึ7.หินลับมีด ใช้สำหรับลับมีดติดตา
8.กรรไกร ใช้สำหรับตัดกิ่งตา และต้นตอ
9.กล่องใส่เครื่องมือ ใช้สำหรับบรรจุเครื่องใช้ต่างๆ ในการติดตา วิธีการติดตาเขียว1.ใช้เศษผ้าทำความสะอาดบริเวณโคนต้น 2.ใช้ปลายมีดกรีดเปลือกของต้นตอในแนวดิ่ง 2 รอย ห่างกันประมาณ 1 เซนติเมตร 1 ใน 3 ของลำต้น รอยกรีดมีความยาว 5-7 เซนติเมตร โดยให้รอยกรีดด้านล่างชิดพื้นดินมากที่สุด 3.ตัดขวางรอยกรีดทั้งสองที่ปลายสุดด้านบนให้ต่อถึงกัน แล้วค่อยๆ ลอกเปลือกที่ตัดออกเบาๆ ลงข้างล่างจนสุดรอยกรีด ตัดเปลือกที่ดึงออกให้เหลือลิ้นยาวประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร 4. ทำความสะอาดกิ่งตาแล้วใช้ใบมีดคมๆ เฉือนแผ่นตา เริ่มจากปลายกิ่งไปหาโคนให้ติดเนื้อไม้บางๆ และสม่ำเสมอ ยาวประมาณ 7-8 เซนติเมตร
5.แต่งริมแผ่นตาทั้งสองข้างให้เล็กกว่ารอยแผลที่เตรียมไว้เล็กน้อย
ุ6.ค่อยๆ ลอกแผ่นตาออกจากเนื้อไม้ จับแผ่นตาให้แน่นพยายามอย่าให้แผ่นตาโค้งหรืองอเพราะจะทำให้แผ่นตาช้ำ ึ7.ตัดบริเวณส่วนโคนของแผ่นตาออกเล็กน้อย รีบสอดแผ่นตาลงในรอยแผลบนต้นตอที่เตรียมไว้ โดยสอดลงในลิ้น ตรวจดูแผ่นตาที่สอดลงไป จะต้องให้ตาอยู่เหนือก้านใบและอยู่ตรงกลางรอยแผลด้วย 8. ใช้พลาสติกใสพันทับจากด้านล่างขึ้นด้านบน และพันขึ้นเรื่อยๆ รอยที่พันจะต้องให้ส่วนของพลาสติกทับกัน พันขึ้นจนเกือบถึงรอยแผลด้านบน ใช้มีดตัดแผ่นตาส่วนที่เกินจากรอยผลทิ้ง โดยให้ต่ำจากรอยแผลด้านบนเล็กน้อย จากนั้นพันพลาสติกต่อไปจนเลยรอยแผลประมาณ 2-3 รอบ จึงทำเงื่อนผูกโดยสอดปลายพลาสติกเข้าไปในห่วงรอบสุดท้ายแล้วถึงให้แน่น การตรวจผลการติดตา
1. หลังจากการติดตาแล้ว 3 สัปดาห์ ให้ทำการตรวจดูผล ถ้าแผ่นตายังมีสีเขียวอยู่แสดงว่าติดตาเป็นผลสำเร็จ
2. ใช้ปลายมีดคมกรีดลงบนพลาสติด้านข้างของต้นตอ แกะพลาสติกออก
3. ต้นที่มีแผ่นสีคล้ำแสดงว่าการติดตาไม่เป็นผลสำเร็จ ใช้ปลายมีดคมกรีดบนพลาสติกด้านหน้าแผ่นตา ส่วนอีกด้านของต้นตอไว้สำหรับติดตาซ้ำได้อีกครั้ง
การนำต้นตอตาไปใช้ประโยชน์
1. หลังจากกรีดพลาสติกออกควรทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปหาห์ ก่อนตัดยอด
2. ตัดยอดต้นตอตาเหนือรอยที่ติดตาขึ้นไปประมาณ 5 เซนติเมตร
3. ให้รอยตัดลาดเอียงลงทางด้านตรงข้ามแผ่นตา
4. ถ้าตัดยอดในแปลงปลูก ตาจะแตกออกมาภายใน 15-30 วัน
5. ถ้าถอนต้นตอตาไปปลูกที่อื่นตาจะแตกออกมาภายใน 1-2 เดือน
ุ6. ถ้าติดตาสำเร็จแล้วไม่ตัดยอดสามารถปล่อยทิ้งไว้ในแปลงได้ประมาณไม่เกิน 1 ปี
ข้อควรระวังในการติดตาเขียว
1. มีดต้องคมอยู่เสมอ
2. ต้นกล้าและกิ่งตาจะต้องสมบูรณ์
3. หลีกเลี่ยงการติดตาในระหว่างที่ฝนกำลังตก
4. ความสำเร็จขึ้นอยูกับความเร็วและความชำนาญูของผู้ติดตา
5. แสงแดดมีผลต่อความสำเร็จในการติดตาเขียวจึงต้องใช้พลาสติกใสพัน
6. อย่าใช้แผ่นตาช้ำ ตากุ้ง ตาบริเวณกลุ่มใบที่ไม่มีไข่ตา แผ่นตาสกปรก และแห่ง
ึ7. พันแผ่นตาให้แน่น
8. อย่าติดตาในเวลาอากาศร้อนจัด
http://www.yangpara.com/rubber/rubber0_01.htm
.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น