การป้องกันกำจัดหนอนกออ้อย
การเข้าทำลาย
หนอนกออ้อยมี 5 ชนิด พบหนอนกอลายจุดเล็ก หนอนกอสีขาว และหนอนกอสีชมพู อยู่คละกันและเข้าทำลายอ้อยในระยะแตกกอ สำหรับหนอนกอลายจุดใหญ่ พบระบาดรุนแรงมากในระยะอ้อยเป็นลำ ส่วนหนอนกอลายใหญ่ พบปริมาณน้อยในทุกระยะการเจริญเติบโตของอ้อย
ในแหล่งที่มีการระบาดของหนอนกออ้อยอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกษตรกรต้องสำรวจการทำลายของแมลงชนิดนี้อย่างสม่ำเสมอตลอดฤดูปลูก
การเตรียมท่อนพันธุ์
1. หลีกเลี่ยงการใช้ท่อนพันธุ์จากแหล่งที่มีการระบาดของหนอนกอลายจุดใหญ่
2. หากจำเป็นต้องใช้ท่อนพันธุ์ในข้อ 1 ให้เกษตรกร ปฏิบัติตามข้อใดข้อหนึ่ง ดังนี้
- แช่ท่อนพันธุ์ในน้ำปูนขาว อัตรา 500 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร นาน 7 ชั่วโมง
- แช่ท่อนพันธุ์ในน้ำธรรมดา นาน 25 ชั่วโมง
- แช่ท่อนพันธุ์ในน้ำอุ่นอุณหภูมิ 52 องศาเซลเซียส นาน 1 ชั่วโมง
โดยต้องแช่ท่อนพันธุ์อ้อยให้จมอยู่ใต้น้ำ
ระยะอ้อยแตกกอ (อ้อยอายุ 1-4 เดือน) ในสภาพแห้งแล้ง จะพบหนอนกอลายจุดเล็ก หนอนกอสีขาว และหนอนกอสีชมพู ระบาดทำลายทั้งในอ้อยปลูกและอ้อยตอเป็นจำนวนมาก ซึ่งในระยะนี้ หนอนกอลายจุดใหญ่จะพักตัวอยู่ภายในโคนต้นอ้อยใต้ดิน
ถ้าสำรวจพบหน่ออ้อยแสดงอาการยอดเหี่ยวเนื่องจากการทำลาย จำนวน 1-2 ยอดต่อไร่ หรือพบกลุ่มไข่ 1-2 กลุ่มต่อไร่ แนะนำให้เกษตรกรปฏิบัติดังนี้
ถ้าสำรวจพบต้นอ้อยถูกทำลาย โดยสังเกตจากมูลหนอนที่มีสีขาว หรือสีน้ำตาล บริเวณอ้อยปล้องที่ 2-3 จากยอด หรือขอบใบอ้อยเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลือง แนะนำให้เกษตรกรปฏิบัติดังนี้
แนะนำให้เกษตรกรปฏิบัติดังนี้
1. ห้ามเผาใบอ้อยก่อนและหลังตัดอ้อยเข้าโรงงานเพราะ
- เป็นการทำลายแมลงศัตรูธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแตนเบียนไข่ทริโคแกรมมา และแตนเบียนหนอนโคทีเซีย ที่ปล่อยไป
- เป็นสาเหตุการระบาดของหนอนกอลายจุดเล็ก ในฤดูปลูกต่อไป
- เป็นการทำลายความชื้นและความอุดมสมบูรณ์ของดิน
2. ถ้าปลูกอ้อยใหม่
- ไถตากดินไว้ 1-2 สัปดาห์
- เก็บรวบรวมกออ้อยที่ถูกทำลายเผาทิ้ง
- เตรียมท่อนพันธุ์อ้อยตามคำแนะนำ
- ควรปลูกอ้อยพันธุ์ที่มีความทนทานต่อการทำลาย เช่น เอฟ 156 อู่ทอง 1 เค 84-200 เป็นต้น
3. ถ้าไว้ตออ้อย
- เมื่อสำรวจพบรอยทำลายของหนอนกอลายจุดใหญ่ที่ตออ้อย ประมาณ 10% ของลำ ให้ปล่อยแตนเบียนหนอนโคทีเซีย อัตรา 500-1,000 ตัวต่อไร่ต่อสัปดาห์
- ถ้าพบตออ้อยถูกทำลายมากกว่า 50% ของลำ แนะนำให้ปลูกอ้อยใหม่ และรวบรวมตออ้อยที่ถูกทำลายเผาทิ้ง
การป้องกันกำจัด
1. หนอนกอลายจุดเล็ก หนอนกอสีขาว และหนอนกอสีชมพู ใช้สารฆ่าแมลง ดังนี้
- เดลทาเมนทริน 3% EC อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร เมื่ออ้อยอายุ 1 เดือน หรือเมื่ออ้อยแสดงอาการยอดเหี่ยว 10% พ่น 2-3 ครั้ง ห่างกัน 14 วัน ในช่วงเดือนมีนาคม-มิถุนายน ใช้ในกรณีเกิดภาวะแห้งแล้งความชื้นในดินไม่พอหรือมีหน่ออ้อยแตกใหม่หลังเก็บเกี่ยว
- คาร์โบฟูราน 3% G อัตรา 10 กิโลกรัมต่อไร่ (สารฆ่าแมลงชนิดมีพิษร้ายแรงหรือร้ายแรงยิ่ง) โรยสารฆ่าแมลงบนท่อนพันธ์อ้อยก่อนกลบดินหรือตอนแต่งตอ สำหรับอ้อยตอให้โรยข้างกออ้อยทั้งสองด้าน และใส่ซ้ำในอัตราเดิม หลังปลูกหรือแต่งตอแล้ว 45 วัน
2. หนอนกอลายจุดใหญ่ ใช้สารฆ่าแมลง ดังนี้
- ปิโตรเลียมสเปรย์ออยล์ 83.9% EC อัตรา 100 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นให้ทั่วต้นอ้อยเมื่อพบไข่ 0.2-1.0 กลุ่ม/ต้น หรือ เดลทาเมทริน 3% EC อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นเมื่อพบตัวเต็มวัย 1-5 ตัว/กอ ใช้ในระยะอ้อยเป็นลำและพ่นตอนเย็น
- เบตาไซฟลูทริน/ คลอร์ไพริฟอส 1.25%/25% EC อัตรา 20 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นเมื่อพบการะบาดของหนอนกอลายจุดใหญ่ 10% พ่นตออ้อย หลังจากตัดอ้อยแล้วไม่เกิน 10 วัน เพื่อป้องกันหนอนเข้าพักตัวในตออ้อย
รูปภาพประกอบ
หนอนกอลายจุดเล็ก
หนอนกอสีชมพู
หนอนกอสีขาว
อาการยอดกุดแห้ง และใบอ้อยเป็นรูพรุน เนื่องจากการทำลายในระยะเป็นหน่อ
หนอนกอลายจุดใหญ่
หนอนกออ้อยมี 5 ชนิด พบหนอนกอลายจุดเล็ก หนอนกอสีขาว และหนอนกอสีชมพู อยู่คละกันและเข้าทำลายอ้อยในระยะแตกกอ สำหรับหนอนกอลายจุดใหญ่ พบระบาดรุนแรงมากในระยะอ้อยเป็นลำ ส่วนหนอนกอลายใหญ่ พบปริมาณน้อยในทุกระยะการเจริญเติบโตของอ้อย
ในแหล่งที่มีการระบาดของหนอนกออ้อยอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกษตรกรต้องสำรวจการทำลายของแมลงชนิดนี้อย่างสม่ำเสมอตลอดฤดูปลูก
การเตรียมท่อนพันธุ์
1. หลีกเลี่ยงการใช้ท่อนพันธุ์จากแหล่งที่มีการระบาดของหนอนกอลายจุดใหญ่
2. หากจำเป็นต้องใช้ท่อนพันธุ์ในข้อ 1 ให้เกษตรกร ปฏิบัติตามข้อใดข้อหนึ่ง ดังนี้
- แช่ท่อนพันธุ์ในน้ำปูนขาว อัตรา 500 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร นาน 7 ชั่วโมง
- แช่ท่อนพันธุ์ในน้ำธรรมดา นาน 25 ชั่วโมง
- แช่ท่อนพันธุ์ในน้ำอุ่นอุณหภูมิ 52 องศาเซลเซียส นาน 1 ชั่วโมง
โดยต้องแช่ท่อนพันธุ์อ้อยให้จมอยู่ใต้น้ำ
ระยะอ้อยแตกกอ (อ้อยอายุ 1-4 เดือน) ในสภาพแห้งแล้ง จะพบหนอนกอลายจุดเล็ก หนอนกอสีขาว และหนอนกอสีชมพู ระบาดทำลายทั้งในอ้อยปลูกและอ้อยตอเป็นจำนวนมาก ซึ่งในระยะนี้ หนอนกอลายจุดใหญ่จะพักตัวอยู่ภายในโคนต้นอ้อยใต้ดิน
ถ้าสำรวจพบหน่ออ้อยแสดงอาการยอดเหี่ยวเนื่องจากการทำลาย จำนวน 1-2 ยอดต่อไร่ หรือพบกลุ่มไข่ 1-2 กลุ่มต่อไร่ แนะนำให้เกษตรกรปฏิบัติดังนี้
- ปล่อยแตนเบียนไข่ทริโคแกรมมา อัตรา 20,000 ตัวต่อไร่ต่อสัปดาห์ ติดต่อกัน 8 ครั้ง
- ตัดหน่ออ้อยที่แสดงอาการยอดเหี่ยวให้ถึงโคนต้น แล้วรวบรวมเผาทำลาย
- พ่นเชื้อแบคทีเรียบีที ในเวลาเย็น อัตรา 100 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร เพื่อทำลายหนอนวัย 1-3 (ความยาวหนอน 0.3-0.8 เซนติเมตร) ก่อนที่หนอนจะเจาะเข้าทำลายหน่ออ้อย
ถ้าสำรวจพบต้นอ้อยถูกทำลาย โดยสังเกตจากมูลหนอนที่มีสีขาว หรือสีน้ำตาล บริเวณอ้อยปล้องที่ 2-3 จากยอด หรือขอบใบอ้อยเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลือง แนะนำให้เกษตรกรปฏิบัติดังนี้
- ตัดยอดอ้อยต่ำกว่าบริเวณที่พบมูลหนอน รวบรวมทำลายโดยนำไปแช่น้ำธรรมดา นาน 25 ชั่วโมง
- ปล่อยแตนเบียนไข่ทริโคแกรมมา อัตรา 20,000 ตัวต่อไร่ต่อสัปดาห์ ติดต่อกันก่อนตัด อ้อย 1 สัปดาห์
- ปล่อยแตนเบียนหนอนโคทีเซีย อัตรา 500-1,000 ตัวต่อไร่ต่อสัปดาห์ ตลอดฤดูปลูก
- พ่นเชื้อแบคทีเรียบีที ในเวลาเย็น อัตรา 100 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร เพื่อทำลายหนอนที่เพิ่ง ฟักออกจากไข่
แนะนำให้เกษตรกรปฏิบัติดังนี้
1. ห้ามเผาใบอ้อยก่อนและหลังตัดอ้อยเข้าโรงงานเพราะ
- เป็นการทำลายแมลงศัตรูธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแตนเบียนไข่ทริโคแกรมมา และแตนเบียนหนอนโคทีเซีย ที่ปล่อยไป
- เป็นสาเหตุการระบาดของหนอนกอลายจุดเล็ก ในฤดูปลูกต่อไป
- เป็นการทำลายความชื้นและความอุดมสมบูรณ์ของดิน
2. ถ้าปลูกอ้อยใหม่
- ไถตากดินไว้ 1-2 สัปดาห์
- เก็บรวบรวมกออ้อยที่ถูกทำลายเผาทิ้ง
- เตรียมท่อนพันธุ์อ้อยตามคำแนะนำ
- ควรปลูกอ้อยพันธุ์ที่มีความทนทานต่อการทำลาย เช่น เอฟ 156 อู่ทอง 1 เค 84-200 เป็นต้น
3. ถ้าไว้ตออ้อย
- เมื่อสำรวจพบรอยทำลายของหนอนกอลายจุดใหญ่ที่ตออ้อย ประมาณ 10% ของลำ ให้ปล่อยแตนเบียนหนอนโคทีเซีย อัตรา 500-1,000 ตัวต่อไร่ต่อสัปดาห์
- ถ้าพบตออ้อยถูกทำลายมากกว่า 50% ของลำ แนะนำให้ปลูกอ้อยใหม่ และรวบรวมตออ้อยที่ถูกทำลายเผาทิ้ง
การป้องกันกำจัด
1. หนอนกอลายจุดเล็ก หนอนกอสีขาว และหนอนกอสีชมพู ใช้สารฆ่าแมลง ดังนี้
- เดลทาเมนทริน 3% EC อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร เมื่ออ้อยอายุ 1 เดือน หรือเมื่ออ้อยแสดงอาการยอดเหี่ยว 10% พ่น 2-3 ครั้ง ห่างกัน 14 วัน ในช่วงเดือนมีนาคม-มิถุนายน ใช้ในกรณีเกิดภาวะแห้งแล้งความชื้นในดินไม่พอหรือมีหน่ออ้อยแตกใหม่หลังเก็บเกี่ยว
- คาร์โบฟูราน 3% G อัตรา 10 กิโลกรัมต่อไร่ (สารฆ่าแมลงชนิดมีพิษร้ายแรงหรือร้ายแรงยิ่ง) โรยสารฆ่าแมลงบนท่อนพันธ์อ้อยก่อนกลบดินหรือตอนแต่งตอ สำหรับอ้อยตอให้โรยข้างกออ้อยทั้งสองด้าน และใส่ซ้ำในอัตราเดิม หลังปลูกหรือแต่งตอแล้ว 45 วัน
2. หนอนกอลายจุดใหญ่ ใช้สารฆ่าแมลง ดังนี้
- ปิโตรเลียมสเปรย์ออยล์ 83.9% EC อัตรา 100 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นให้ทั่วต้นอ้อยเมื่อพบไข่ 0.2-1.0 กลุ่ม/ต้น หรือ เดลทาเมทริน 3% EC อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นเมื่อพบตัวเต็มวัย 1-5 ตัว/กอ ใช้ในระยะอ้อยเป็นลำและพ่นตอนเย็น
- เบตาไซฟลูทริน/ คลอร์ไพริฟอส 1.25%/25% EC อัตรา 20 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นเมื่อพบการะบาดของหนอนกอลายจุดใหญ่ 10% พ่นตออ้อย หลังจากตัดอ้อยแล้วไม่เกิน 10 วัน เพื่อป้องกันหนอนเข้าพักตัวในตออ้อย
รูปภาพประกอบ
เมื่ออ้อยเป็นลำ มักจะทำให้ปล้องอ้อยหดสั้น | อาการรุนแรงในอ้อยที่เป็นลำ อ้อยจะตายทั้งกอและใส้กลวงเน่า |
ไข่ | หนอน | ดักแด้ | ตัวเต็มวัย |
ไข่วางเป็นกลุ่มสีชมพู | หนอน | ดักแด้ | ตัวเต็มวัย |
อาการยอดพุ่มในระยะเป็นลำ |
ไข่ | หนอน | ดักแด้ | ตัวเต็มวัย |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น